86
อายุ
รเวท
: ภู
มิปั
ญญาโบราณในยุ
คโลกาภิวั
ตน์
ในงานเขี
ยนของเขาที่
มี
ชื่
อว่
า “สั
งคมวิ
ทยาทางการแพทย์
”
(1960)
เป็
น
สิ่
งที่
ขาดไม่
ได้
ส�
ำหรั
บนั
กศึ
กษาที่
ท�
ำงานในสายประวั
ติ
ศาสตร์
ทางการ
แพทย์
งานชิ้
นที่
สองของการศึ
กษาที่
ยิ่
งใหญ่
นั้
นเกี่
ยวข้
องกั
บการแพทย์
ในคั
มภร์
พระเวทของอิ
นเดี
ยโบราณ ในหั
วข้
อเรื่
องอื่
นๆ นั้
น ได้
อธิ
บาย
ถึ
งโรคที่
เป็
นไปได้
ในสั
งคมอิ
นเดี
ยโบราณ โรงเรี
ยนสอนปรั
ชญาที
่
หลาก
หลายของอิ
นเดี
ยช่
วงต้
นๆ และความสั
มพั
นธ์
ของพวกเขากั
บกรี
ซใน
มุ
มมองด้
านวิ
ทยาศาสตร์
และประวั
ติ
ศาสตร์
จุ
ดอ่
อนที่
ส�
ำคั
ญของวิ
ธี
ของ
Sigerist
ได้
แก่
การให้
ความส�
ำคั
ญ
กั
บประเพณี
ของอิ
นเดี
ยในแง่
ของการเจนโลกด้
านอื่
นมากไป ในขณะ
เดี
ยวกั
น นั
กวิ
ชาการให้
ความเห็
นว่
า (ในกรณี
ที่
แห้
งแล้
ง) คนอิ
นเดี
ยอาจ
จะนอนลงและตายเพราะความอดอยากที่
หน้
าร้
านอาหาร (ของผู
้
มั่
งมี
)
โดยไม่
มี
การต่
อต้
านแต่
อย่
างใด (1961:134) ในท�
ำนองเดี
ยวกั
น
Sigerist
ให้
ความส�
ำคั
ญกั
บรายละเอี
ยดเกี่
ยวกั
บปรั
ชญาอิ
นเดี
ยมากเกิ
นไป การ
เปรี
ยบเที
ยบที่
ไม่
รั
บรองผลเกี่
ยวกั
บการแพทย์
กรี
กและการมุ
่
งเน้
นถึ
ง
เรื
่
องความขาดแคลนความกระตื
อรื
อร้
นทางวิ
ทยาศาตร์
ในสั
งคมอิ
นเดี
ย
โบราณซ�้
ำแล้
วซ�้
ำเล่
า (ซึ่
งน่
าจะเกิ
ดจากเหตุ
ผลของเชื้
อชาติ
และสภาพ
ภู
มิ
อากาศ ยั
งคงเป็
นจุ
ดด้
อยของหนั
งสื
อเหล่
านี้
ที่
ศึ
กษาเรื่
อง “พิ
ธี
การ
ปฏิ
บั
ติ
ทางการแพทย์
” ซึ่
งไม่
ขึ้
นอยู่
กั
บประเพณี
)
บทความของ
Vidyalankar (1976)
เป็
นผลงานที่
ประสบ
ผลส�
ำเร็
จซึ่
งรวมเอาประวั
ติ
ศาสตร์
ทั่
วไปกั
บวิ
วั
ฒนาการและหลั
กปฏิ
บั
ติ
ทางการแพทย์
ในอิ
นเดี
ย แนวทางของระบบการศึ
กษาการแพทย์
ของ
อิ
นเดี
ยโบราณในหนั
งสื
อเล่
มนี้
สร้
างการอ่
านที่
มี
คุ
ณค่
า หนั
งสื
อที่
เขี
ยน
ขึ้
นโดย
Sharma (1981)
เกี่
ยวกั
บประวั
ติ
ศาสตร์
อายุ
รเวทถื
อว่
าเป็
น
หนั
งสื
อที่
เกื
อบจะเป็
นประโยชน์
เที
ยบเท่
ากั
น หนั
งสื
อเล่
มเล็
กของ
Vakil
(1966)
เป็
นการศึ
กษาในด้
านนี้
ที่
น่
าพอใจอี
กชิ้
นหนึ่
ง อี
กทั้
งยั
งครอบ