Ayurveda : Ancient Heritage in the Age of Globalisation - page 172

อายุรเวท : ภูมิปัญญาโบราณในยุคโลกาภิวัตน์ 171
แห่งนี้เพื่อบริ การพระโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูเข้าพรรษา58 ความนิยม
ของหมอชีวกเห็ นเด่นชัด เมื่อหมอได้ เข้าสู่สุนทรียสนทนากับพระพุทธเจ้า
ซึ่งได้ก� ำหนดกฎระเบียบของสงฆ์ขึ้น ที่ห้ ามไม่ให้ผู ้ที่เป็นโรคเข้ าไป
ในที่ประชุมสงฆ์ ด้วยหมอชี วกได้ น�ำมาตรการในการดูแลสุ ขภาพ
ทางอายุรเวทที่ดีกว่ามาใช้ ในหมู่สงฆ์ ฆราวาสก็เข้ามาในที่ประชุมสงฆ์
มากขึ้น หลายๆคนที่ทุกข์ทรมานด้วยโรค และไม่สามารถจ่ายค่ารักษา
ได้ จะเข้ ามาในที่ประชุมเพื่อที่จะรับยาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่ อย่างไร
การหลั่งไหลเข้ ามาของคนนี้ ท�ำให้งานของหมอชี วกนั้นล�ำบากขึ้ น
เขาไม่สามารถที่จะจัดการกั บปริมาณงานที่เพิ่มขึ้ นได้ หมอชีวกจึง
คิดว่า การประชุมสงฆ์นั้นใช้ไปในทางที่ไม่ถู กต้อง เขาจึงแนะน�ำให้
พระพุทธเจ้ าทรงบัญญัติกฎขึ้น ซึ่งผู้ที่เป็นโรคบางอย่างจะถูกปฏิเสธ
ไม่ให้เข้ามารับการรักษา 59 ในโอกาสอื่น เมื่ อหมอชีวกได้ ไปที่เมื อง
เวสาลี (เมืองหลวงของลิจฉวี) เพื่ อบริการคนไข้ เขาสังเกตเห็ นพระ
หน้าตาซีดและดูไม่แข็งแรง เมื่อหมอชีวกร้องขอ พระพุ ทธเจ้าจึงมีรับสั่ง
ให้พระออกก�ำลังกายอย่างสม�่ำเสมอ60 หมอชีวกไม่เพียงแต่เป็นผู้สนับสนุน
การใช้อายุรเวทอย่างกว้ างขวางในประวัติศาสตร์ของศาสนาพุทธใน
ยุคแรกๆ แต่ยังเป็ นสาวกของพระพุทธเจ้าที่มีความกระตื อรือร้น การมี
ปฏิสัมพั นธ์ตามปกติของหมอได้บันทึกไว้ในรูปแบบของบทสนทนา 61
57 ในขณะที่ถวายการรักษาพระพุทธเจ้า หมอชีวกมักจะถูกอ้างอยู่ในหลั กค�ำสอนบาลี ว่าเป็น
บุรุษที่เร่งรีบ ซึ่งไม่ลืมที่จะสั่งให้คนไข้ปฏิ บัติตามขั้นตอนต่อไปในการบ�ำบั ดรักษา ในโอกาส
ทั้งหลายทั้งปวง พระพุทธเจ้ าทรงอ่านใจของหมอชีวกและแผนงานในขั้ นต่อไปของเขาได้
พระองค์ทรงปฏิบัติตามขึ้นตอนต่อไปในการรักษาในเวลาที่ หมอชีวกไม่อยู่ เพื่ อที่จะฟื้นจาก
การเจ็บป่วยได้อย่างเต็มที่ นี่ไม่เพียงแต่เป็นการก�ำหนดการเชื่ อมโยงทางโทรจิตระหว่ าง
คนสองคน แต่ยังเป็นการยืนยันว่าพระองค์ทรงเป็น พระไภษัชยพุทธเจ้า (Bhaisajya
Guru) ครูแห่ งแพทย์ทั้งปวง (J.v.333.).
58 DA.i.133; MA.ii.590