Page 55 - ภารตะฟอรั่ม4

รำลึก “สัตยา ไส บาบา” : มหัศจรรย์ แห่งภารตะในยุคโลกาภิวัตน์ ๔๗
มหาวิทยาลัย ในการแผ่ เมตตาให้กับต้นไม้ ได้ ปลู กต้นดอกดาวกระจาย
เมื่อเพาะได้สูงถึ งสองนิ้ว ได้แยกออกเป็นสองแปลง โดยให้ดินให้ อากาศให้
น้ำทุกอย่างเท่าเทียมกัน แต่กลุ่ มหนึ่งได้แผ่เมตตาให้ ใช้จิ ตใจซึ่งเต็มไปด้วย
ความรักความเมตตา ส่วนอีกกลุ่ มหนึ่งปลูกไว้ เพียงแค่เพื่อทำการเปรียบ
เทียบ ปรากฏว่ากลุ่มต้นดาวกระจายที่ให้ความรักความเมตตานั้น ต้นดาว-
กระจายโตวันโตคื นได้เร็วกว่า พอวัดผลเฉลี่ย เห็นได้ว่ากลุ่มที่ ได้รับความรัก
ความเมตตาโตกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รั บความรักความเมตตาถึง ๔๙.๒% และ
ออกดอกทุกต้น ในขณะที่ อีกกลุ่มหนึ่งยังไม่มีดอก เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า
ความรักความเมตตาช่วยให้ ทุกสิ่ งทุกอย่ างเจริญเติ บโตงอกงามได้เร็วกว่า
ดังนั้น การที่ผมเป็นนักวิ ทยาศาสตร์ก็ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ อยู่แล้ว ต้องนำมา
พิสูจน์ เมื่อนำมาพิสูจน์แล้วพบว่ าสิ่งที่ ท่านไส บาบา สอนนั้นถูกต้องแล้ว
จริงๆ แล้วท่านไส บาบา เป็ นนักวิ ทยาศาสตร์ด้วยเหมือนกัน ท่านรู้เรื่อง
วิทยาศาสตร์และสอนนักวิทยาศาสตร์ หลายคน พวกที่เป็นนักวิ ทยาศาสตร์
ที่ยิ่งใหญ่ ของอินเดียนั้นท่านก็สอน และพวกเขานี้กลายเป็นลูกศิษย์ของท่าน
ไส บาบา ทั้งหมด เพี ยงแต่ท่านไส บาบา ไม่ได้ จบวิทยาศาสตร์ ท่านทิ้ง
หนังสือตอนอายุ เพียงแค่สิบสองสิบสามปี และท่านบอกว่าการศึกษาแบบนี้
ไม่มีประโยชน์ (สอนให้ ท่องจำ หรืออะไรแบบนี้) แล้วท่ านไปนั่งอยู่บนก้อน
หินใหญ่ ท่านบอกว่ าไม่ต้องการเรี ยนจากใคร ต้องการสอนคนอื่น ท่ าน
เริ่มสอนคนตั้งแต่อายุได้สิบสี่ปี ทุกคนต่างมานั่งฟังจนเลื่อมใสในเด็กชายคน
นี้ ถ้าพวกเราไปถามท่ านเกี่ยวกับเรื่ องวิทยาศาสตร์ ท่านสามารถตอบได้
หมด จนกระทั่งพวกที่เป็นนักวิทยาศาสตร์งงกัน ท่านรู้ อะไรต่างๆ มากกว่า
พวกเราได้อย่างไร ท่านได้เข้าถึ งหลักของความจริ ง พอเข้าได้ถึงหลักนี้ท่าน
จึงรู้ทุกอย่างและสามารถจะอธิบายให้กับคนอื่นได้ฟังอย่างเข้าใจได้อีกด้วย