เปรม ปราณ ปั
ญจาบ
54
ด้
านครอบครั
วของพระองค์
พระ-
บิ
ดามี
พระนามว่
า เมทธากั
ลหยั
นดาส
(Mehta Kalyan Das) หรื
อ เมทธากาลู
(Mehta Kalu) เป็
นเจ้
าหน้
าที่
กรมสรรพากร
ประจำอำเภอ ส่
วนพระมารดามี
พระนามว่
า
มาตาธริ
พตาญี
(Mata Tripta Ji) เป็
น
ผู้
เคร่
งศาสนามาก และพระองค์
มี
พี่
สาว
พระนามว่
า เบบิ
นานกิ
(Bebe Nanki) ในปี
2030/1487 พระองค์
สมรสกั
บพระนางศรี
สุ
ลั
กคานิ
ญี
(Sri Sulakhani Ji) และมี
บุ
ตร
2 คน คื
อ บาบาศรี
จั
นทร์
ญี
(Baba Sri
Chand Ji) และบาบาลั
กษมี
ดาสญี
(Baba
Lakhami Das Ji)
ในช่
วงที่
พระองค์
อายุ
7 ปี
ได้
เริ่
ม
ศึ
กษาภาษาฮิ
นดี
และภาษาสั
นสกฤต พออายุ
13 ปี
เริ่
มศึ
กษาภาษาเปอร์
เซี
ยและภาษา
อาหรั
บ พออายุ
ได้
เพี
ยง 16 ปี
พระองค์
กลายเป็
นผู้
ที่
มี
ความรู้
ความสามารถมาก
ที่
สุ
ดในเมื
อง
ในปี
2047/1504 (อายุ
35 ปี
)
พี่
สาวของพระองค์
พาพระองค์
ไปอยู่
ในเมื
อง
สุ
ลตานปู
รโลดฮิ
(Sultanpurlodhi) ซึ่
งสามี
ของพี่
สาวหางานให้
พระองค์
ทำได้
เป็
นงาน
เฝ้
าร้
านในตลาดโมดิ
คานา (Modikhana)
ในเมื
องนาวาบ (Nawab) อำเภอโดลั
ทคาน
โลดฮิ
(Daulat Khan Lodhi)
ต่
อมาในปี
2050/1507 (อายุ
38 ปี
) พระองค์
ได้
อาบน้
ำชำระร่
างกายใน
แม่
น้
ำเวน (Vain Nadi) ใกล้
ตั
วเมื
อง หลั
ง
จากที่
อาบน้
ำแล้
ว พระองค์
ได้
ยิ
นเสี
ยงจาก
พระเจ้
ารั
บสั่
งให้
พระองค์
อุ
ทิ
ศตนเพื่
อช่
วย
เหลื
อมวลมนุ
ษย์
แล้
วพระองค์
ได้
เปล่
งเสี
ยง
เป็
นประโยคแรกออกมาว่
า
“There is no
Hindu, no Musalman” “ตั้
งแต่
บั
ดนี้
จะไม่
มี
ชาวฮิ
นดู
และชาวมุ
สลิ
มอี
กต่
อไป”
ดั
งนั้
น
พระองค์
จึ
งได้
เริ่
มออกเดิ
นทางเผยแพร่
คำสอนในปั
ญจาบและเมื
องต่
างๆ ใกล้
ไกล
ทั้
งสี่
ทิ
ศ ใช้
เวลานานรวม 25 ปี
เพื่
อให้
ปุ
ถุ
ชนได้
เข้
าถึ
งสั
จธรรมของชี
วิ
ต หลั
กธรรม
และคำสอนของพระองค์
ได้
ถู
กจารึ
กขึ้
นมาจน
กลายเป็
นศาสนาซิ
กข์
ต่
อมา พระองค์
ได้
พำนั
กและใช้
ชี
วิ
ต
ในช่
วงปลายของชี
วิ
ตในช่
วงปี
2065/1522
–2082/1539 ในเมื
องที่
พระองค์
สร้
างขึ้
น
เองในปี
2065/1522 คื
อเมื
องการ์
ตาร์
ปู
ร
(Kartarpur) แปลว่
าเมื
องแห่
งพระเจ้
า (the
city of God) ปั
จจุ
บั
นอยู่
ในปากี
สถาน