Page 45 - ภารตะฟอรั่ม4

รำลึก “สัตยา ไส บาบา” : มหัศจรรย์ แห่งภารตะในยุคโลกาภิวัตน์ ๓๗
ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
ท่านไส บาบา พูดถึงเรื่ องนิพพาน ขณะเดียวกันท่านสอนคนทั่ว
โลก และท่านอาจจะใช้คำที่ไม่เหมือนกัน ถ้ าเผื่อสอนชาวมุ สลิมหรือสอน
ชาวคริสต์ ท่านจะใช้คำพู ดที่พวกเขาเหล่านั้ นเข้าใจ แต่ท่ านพูดรวมๆ ว่า
ความเป็นมนุษย์ (man) ท่านใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษค่อนข้างจะเยอะเพื่อ
นำมาสอนคนทั่วโลก ท่านถามว่ ามนุษย์หรือ man คำนี้แปลว่าอะไร M
แปลว่า maya คือ มายา กล่าวคือ ไม่ได้เป็ นความจริงอะไร ทุ กสิ่งทุก
อย่างเกิดการเปลี่ยนแปลงตลอด เป็นส่วนหนึ่งของมายา วันนี้มีโต๊ะ อีกวั น
หนึ่งไม่ มีแล้ว วันนี้พวกเรามีอะไรต่อมิอะไร อีกวันหนึ่งไม่มี ก่ อนหน้านั้ น
ไม่มี หรือมีแล้วสูญหายไป วันหนึ่งพวกเรามีชีวิตแล้วอีกสักวั นหนึ่งก็ ตาย นี่
คือสิ่งที่ ท่านไส บาบา เรียกว่ ามายา เพราะฉะนั้ น man หรือมนุ ษย์ มี
มายามาเยอะ มาปรากฏอยู่ในตัวของพวกเรา ซึ่งไม่ใช่ความจริงที่แท้จริง
ในคำว่า man หรือมนุษย์ ท่านไส บาบา พูดถึงคำว่า Atman คือ
อาตมัน คราวนี้อาตมันในทางพุทธศาสนา (ซึ่งพวกเราไม่ ค่อยได้ใช้กันสัก
เท่าไหร่) แต่ท่านไส บาบา บอกว่านี่ก็คือพุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น นี่คือตัวจริ งของ
พวกเรา พวกเราจึงไม่ใช่อย่ างที่เห็นกันอยู่อย่างนี้ แต่พวกเรามีส่วนที่เป็น
จิตบริสุทธิ์ เป็นความจริงที่อยู่ ในตัวเรา ท่านไส บาบา ใช้ คำว่าอาตมัน
เพราะเป็นไปตามภาษาในอินเดีย๓๑ แต่พวกเราคือสิ่งนั้น พวกเรา คือ
พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ไม่ใช่มายา เพราะมายาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด มีบวกก็มี
ลบ ขึ้นๆ ลงๆ แต่ ในส่วนของพุทธะเป็นความจริงในตัวเรา
ส่วน N คือ Nirvana คือ นิพพาน มนุษย์เราต้องผ่ านจากการ
เป็นมายาที่มีบวกมีลบ มีขึ้นมีลง มีความทุกข์ความสุขอยู่ อย่างนี้ แล้วพวก
เราจะแสวงหาความจริงที่มี อยู่ในตัวเราว่าแท้ที่จริงพวกเราไม่ใช่ร่างกายนี้
หรอก ไม่ใช่สิ่งที่มองเห็น แต่พวกเราคือพุทธะ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น พอพวกเรา
ค้นพบสิ่งนี้แล้ วพวกเราจะเข้าไปสู่ความจริงขั้ นสุดท้ายคือนิพพาน นั่ นคือ
ท่านไส บาบา ใช้คำว่านิพพาน แต่พอสอนพวกชาวคริสต์ ท่านบอกว่ าตั้ง
แต่แรกนั้นยั งไม่มีจั กรวาล แล้วมีอะไร...ในที่สุดจั กรวาลจะสลายไป แล้ว
เหลืออะไร ทางพวกเรา (ชาวพุทธ) ก็บอกว่าเป็นนิพพานนั่นแหละ เพราะ
ไม่มีการเกิดไม่มีการดั บไม่มีการตาย แล้วนิพพานมีมาตั้งแต่แรกและมีต่อไป
๓๑ ภาษาอินเดียในที่ นี้หมายถึง ภาษาสันสกฤต และมีใช้ในศาสนาฮินดู ศาสนาพุทธ ศาสนาเชน
ศาสนาซิกข์ รวมถึงโยคะ