รำลึ
ก “สั
ตยา ไส บาบา” : มหั
ศจรรย์
แห่
งภารตะในยุ
คโลกาภิ
วั
ตน์
๑๓
หรื
อบอมเบย์
๙
แล้
วเขาก็
กลั
บจนได้
แต่
ขากลั
บนั้
น ปรากฏว่
ามี
โจรผู้
ร้
ายยึ
ด
เครื่
องบิ
น ยิ
งกั
นสนั่
นหวั่
นไหวบนเครื่
องบิ
น บั
งคั
บให้
เครื่
องบิ
นลงจอด พอ
จอดแล้
วในประเทศนั้
นส่
งทหารมาล้
อมและบุ
กเข้
ามายิ
งในเครื่
องบิ
น เพื่
อน
ผมคนนี้
เป็
นผู้
อาวุ
โสและใกล้
ชิ
ดกั
บท่
านไส บาบา เหมื
อนกั
น เขาเล่
าให้
ฟั
ง
ว่
าเขากั
บภรรยาอยู่
ด้
วยกั
น (บนเครื่
องบิ
น) เขารู้
สึ
กว่
ามี
คนมาจู
งมื
อของทั้
ง
สองคนออกมา ผ่
านพวกทหารและใครต่
อใครแต่
ไม่
มี
ใครมองเห็
น จนมาสู่
สถานที่
ปลอดภั
ย เขาตกใจมากและวั
นรุ่
งขึ้
นเขาบิ
นกลั
บไปหาท่
านไส บาบา
เพื่
อขอโทษที่
กลั
บไปโดยที่
ท่
านไส บาบา ยั
งไม่
ยอม จึ
งทำให้
เกิ
ดปั
ญหา
อย่
างนี้
ท่
านไส บาบา จะรู้
ว่
าอะไรดี
อะไรไม่
ดี
แต่
คนนี้
ฝื
นไป ก็
ไปเจอ
ปั
ญหามากมาย
เมื่
อผมจำเรื่
องราวอย่
างนี้
ได้
ผมยั
งไม่
เดิ
นทางกลั
บ แท็
กซี่
ที่
มารอ
รั
บผมบอกยกเลิ
กว่
าไม่
ไป (ในวั
นนั้
นผมจะต้
องเดิ
นทางออกตั้
งแต่
เวลา
๑๑.๐๐ น.) ผมได้
รั
บโน้
ตจากบาบาเรี
ยกตั
วให้
ไปพบ ตอนนั้
นเลยกำหนด
เวลาไปหน่
อยซึ่
งเกื
อบจะเที่
ยงวั
นแล้
ว พอจะเข้
าไปพบท่
านไส บาบา
ปรากฏว่
าท่
านจั
ดงานเลี้
ยง มี
รั
ฐมนตรี
ว่
าการกระทรวงศึ
กษาธิ
การของ
อิ
นเดี
ยมานั่
งรั
บประทานอาหารด้
วย เป็
นรายการเดี
ยวกั
บที่
ผมได้
รั
บเชิ
ญ
บรรยาย รั
ฐมนตรี
ท่
านนี้
มาทำพิ
ธี
ปิ
ด ท่
านไส บาบา เชิ
ญผมเข้
าไปข้
างใน
ให้
นั่
งโต๊
ะใกล้
ๆ กั
บรั
ฐมนตรี
ซึ่
งเสิ
ร์
ฟอาหารให้
ดู
แลให้
ตั
กไอศกรี
มให้
และ
ทำทุ
กอย่
างให้
ผมตกใจนิ
ดหน่
อย พอมองดู
นาฬิ
กาแล้
วก็
บอกกั
บตนเองว่
า
ไปไม่
ทั
นแล้
ว (ไม่
ทั
นเที่
ยวบิ
นกลั
บ) จากนั้
นรั
ฐมนตรี
จะเดิ
นทางกลั
บแล้
ว
พวกเราลุ
กขึ้
นยื
นแล้
วไปส่
ง บาบาก็
ไปส่
งรั
ฐมนตรี
ด้
วย หลั
งจากที่
รั
ฐมนตรี
กลั
บไปแล้
ว ท่
านไส บาบา หั
นมามองผมพร้
อมกั
บบอกว่
าตอนนี้
กลั
บไป
(ไทย) ได้
แล้
ว ผมก็
งง...ดู
เวลา...ไปไม่
ทั
นแล้
ว เพราะเครื่
องบิ
นกำลั
งจะออก
จากบั
งกะลอร์
๑๐
ปกติ
จะต้
องใช้
เวลาเดิ
นทางสองสามชั่
วโมงก่
อนเครื่
องบิ
น
๙
รั
ฐมหาราษฏระ (Maharashtra) ตั้
งอยู่
ในภาคตะวั
นตกของอิ
นเดี
ย ติ
ดกั
บทะเลอาระเบี
ยน มี
เมื
องมุ
มไบ (Mumbai) เป็
นเมื
องหลวงของรั
ฐ เดิ
มชื่
อเมื
องบอมเบย์
(Bombay) เรี
ยกตามชาว
โปรตุ
เกสตั้
งแต่
คริ
สต์
ศตวรรษที่
๑๕ และได้
เปลี่
ยนชื่
อเมื
องในปี
๒๕๓๘/๑๙๙๕ ปั
จจุ
บั
นมุ
มไบ
ถื
อเป็
นเมื
องที่
ใหญ่
ที่
สุ
ดของอิ
นเดี
ยและเป็
นศู
นย์
กลางทางเศรษฐกิ
จที่
สำคั
ญที่
สุ
ดแห่
งหนึ่
งใน
อิ
นเดี
ย ใช้
ภาษามราฐี
(Marathi) เป็
นภาษาราชการประจำรั
ฐ
๑๐
รั
ฐกรณาฏกะ (Karnataka) ตั้
งอยู่
ทางตะวั
นตกของอิ
นเดี
ย ติ
ดกั
บทะเลอาระเบี
ยน ประกอบ
ด้
วย ๒๘ จั
งหวั
ด มี
เมื
องบั
งกะลอร์
(Bangalore) เป็
นเมื
องหลวงของรั
ฐ และได้
รั
บสมญานาม
ว่
า “Silicon Valley” ในบางครั้
งกล่
าวกั
นว่
า “ดิ
นแดนแห่
งวิ
ทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
” (The
Land of Science and Technology) หรื
อเรี
ยกว่
า “เมื
องแห่
งเครื่
องปรั
บอากาศของ
ประเทศ” (The Air Conditioned City of the Country) ใช้
ภาษากั
นนาดา (Kannada) เป็
น
ภาษาราชการประจำรั
ฐ ที่
มา : Pan India Internet Pvt. Ltd., http://karnatakaonline./Profile